รายงานวิจัย
มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์
ทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Fund)
2569
กระบวนการให้การช่วยเหลือและการสนับสนุนทางสังคมของวัยรุ่นตั้งครรภ์ในจังหวัดอุตรดิตถ์
The processes of assistance and social support for pregnant adolescents in Uttaradit Province.
ปัญหาการตั้งครรภ์และการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น ส่งผลกระทบทางด้านร่างกาย จิตใจ เศรษฐกิจและสังคม กล่าวคือ ผลกระทบด้านร่างกาย เกิดขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ขณะที่อายุยังน้อย (Biological Effect of Young Age) โดยเฉพาะแม่ที่มีอายุน้อยกว่า 17 ปี อาจมีภาวะความดันโลหิตสูง โลหิตจาง ติดเชื้อ HIV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ขาดสารอาหาร ไม่ได้รับการฝากครรภ์และการดูแลครรภ์ที่เหมาะสม เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยและเสียชีวิตได้ 1.2-2.7 เท่า เมื่อเทียบกับแม่ที่มีอายุ 20-24 ปี นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพของบุตร เช่น การขาดการกระตุ้นทำให้มีเด็กมีพัฒนาการภาษาล่าช้า ได้รับโภชนาการที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งมีโอกาสเสียชีวิตในขวบปีแรกสูง (รายงานสถานการณ์การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นในประเทศไทย, 2556) ผลกระทบด้านจิตใจ พบว่า แม่วัยรุ่นเองอาจมีปัญหาสุขภาพจิต เกิดภาวะซึมเศร้าช่วงเริ่มตั้งครรภ์และหลังคลอด เกิดความกลัว วิตกกังวล อับอาย เนื่องจากขัดต่อค่านิยมและบรรทัดฐานของสังคม เกิดความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ มีปัญหาทางการเงินและกลัวเป็นภาระแก่ครอบครัว (นพวรรณ ศรีวงค์พานิช, 2557 : 7-9) แม่วัยรุ่นต้องเผชิญสภาวะทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคง เกิดความเครียดและภาวะซึมเศร้า ซึ่งอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ จากการศึกษาพบแม่วัยรุ่นร้อยละ 42 มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าก่อนคลอด และร้อยละ 53 มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งภาวะซึมเศร้านี้ส่งผลต่อสุขภาพแม่และทารก (สำนักอนามัยเจริญพันธ์, 2557) ผลกระทบด้านสังคม พบว่า แม่วัยรุ่นต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และไม่สามารถกลับเข้าไปเรียนได้ตามเดิม เนื่องจากถูกกดดันจากผู้บริหารสถานศึกษา ไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนในโรงเรียน คนในชุมชนติฉินนินทาเพราะทำผิดจารีต ผู้ปกครองของวัยรุ่นจึงแก้ปัญหาด้วยการให้ออกจากโรงเรียน เพราะเห็นว่าทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง (อุทุมพร อินทจักร์, ม.ป.ป.) ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจ พบแม่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์เรียนไม่จบถึงร้อยละ 30 มีระดับการศึกษาต่ำและส่งผลต่อการหางานทำในอนาคต ขาดโอกาสทำงานที่ดีหรือประสบปัญหาการว่างงาน ซึ่งแม่วัยรุ่นว่างงานสูงถึงร้อยละ 59 โดยร้อยละ 45 มีรายได้อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ปัญหาแม่วัยรุ่นยังส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยประเทศไทย ใช้งบประมาณในการดูแลแม่วัยรุ่นอยู่ที่ 1.75 แสนบาทต่อคนต่อปี โดยที่รัฐจะต้องดูแลต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3-4 ปีหรือมากกว่านั้น (สำนักอนามัยเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุข, 2558)
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นปัญหาที่ละเอียดซับซ้อน การดำเนินการในการป้องกันปัญหานี้มุ่งเน้นให้วัยรุ่นมีการเสริมสร้างทักษะชีวิตและสังคม การเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ กระทรวงสาธารณสุขและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงกำหนดให้การลด อัตราคลอดในวัยรุ่นเป็นตัวชี้วัดหลักในการวัดผลการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังได้ดำเนินงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการตามนโยบายการขับเคลื่อนงานบริการสุขภาพตามกลุ่มวัยในวัยรุ่น โดยมีการเชื่อมประสานระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนกับระบบบริการสุขภาพที่เป็นมิตรแก่วัยรุ่นและ ส่งเสริมให้มีการบริการเชิงรุก ให้การช่วยเหลือวัยรุ่นที่ประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มรับรู้ปัญหา จนกระทั่งวัยรุ่นและผู้เกี่ยวข้องสามารถจัดการปัญหาได้อย่างเหมาะสม โดยการมีส่วนร่วมและการตัดสินใจของวัยรุ่นเอง อย่างไรก็ตาม การจัดบริการสุขภาพวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ ยังมีข้อจำกัดทั้งการตัดสินใจบนพื้นฐานของค่านิยมทางสังคม การเลือกระหว่างการยุติหรือดำรงการตั้งครรภ์ การดูแลในระหว่างตั้งครรภ์ ขณะคลอด และหลังคลอด ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่ง อาจจะส่งผลกระทบ ต่อประเทศในระยะยาว ควรจะได้รับการแก้ไขและดูแลอย่างเหมาะสม โดยต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งวัยรุ่นเอง ครอบครัวหรือผู้ปกครอง ครู บุคลากรทางการ แพทย์ รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทให้การช่วยเหลือ ทางเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับวัยรุ่นอีกด้วย (กรมสุขภาพจิต. 2557)
จากปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้กลายเป็นวาระปัญหาทางสังคมระดับชาติ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นจังหวัดนำร่องในการจัดการปัญหาแม่วัยรุ่น ตาม พ.ร.บ.แม่วัยรุ่น 2559 โดยมีกระบวนการตั้งแต่การให้ความรู้เรื่องเพศวิถีศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา มีระบบการจัดการเยียวยา ส่งต่อ แม่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ ตามสิทธิใน พ.ร.บ. คุ้มครองอนามัยเจริญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม การเป็นแม่โดยไม่ได้ตั้งใจในวัยที่ยังอยู่ในระบบการศึกษา การต้องปรับตัวเข้าสู่บทบาทการเป็นแม่ และการอยู่ในสังคมที่ยังไม่ยอมรับเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ทำให้วัยรุ่นตั้งครรภ์ส่วนหนึ่งต้องออกจากระบบการศึกษา ทำให้แม่และเด็กที่เกิดมาขาดโอกาสทางสังคม กลายเป็นภาระให้กับครอบครัว ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาเรื่อง กระบวนการให้การช่วยเหลือและการสนับสนุนทางสังคมของวัยรุ่นตั้งครรภ์ในจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อสะท้อนให้เห็นกระบวนการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการสนับสนุนทางสังคม ที่ทำให้วัยรุ่นตั้งครรภ์ สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ ทั้งในและนอกระบบการศึกษา ทั้งนี้เพื่อนำผลการวิจัยดังกล่าว ไปเป็นฐานข้อมูลเพื่อพัฒนารูปแบบการดูแลช่วยเหลือและการสนับสนุนแม่วัยรุ่น ในแผนพัฒนาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
วัยรุ่นตั้งครรภ์, การให้การช่วยเหลือ,การสนับสนุนทางสังคม