รายงานวิจัย

สังคมศาสตร์ ธุรกิจ และกฎหมาย
ทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Fund)
2569
การพัฒนาโมเดลทางธุรกิจแบบมีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มขีดความสามาถในการประกอบธุรกิจของกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้ง
Development participatory business model to Increase the business capabilities of Beekeepers groups
สันติ คงสิน,วันชัย ธงยี่สิบสอง
การเลี้ยงผึ้งเป็นอาชีพที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สามารถสร้างรายได้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งได้มากกว่าปีละ 7,000 ล้านบาท โดยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งประมาณ 69,176 ครัวเรือน เกษตรกรมีรายได้จากการเลี้ยงผึ้ง อาทิ ผึ้งพันธุ์ ผึ้งโพรง ชันโรง (กรมส่งเสริมการเกษตร, 2566) โดยผลิตภัณฑ์จากผึ้งมีทั้งในรูปแบบของน้ำผึ้ง เกสรผึ้ง นมผึ้ง และขี้ผึ้ง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยน้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์จากผึ้งที่รู้จักกันแพร่หลาย เป็นน้ำหวานที่ผ่านการย่อยของผึ้งแล้วคายออกมาไว้ในรังผึ้ง น้ำหวานเหล่านี้มักได้มาจากเกสรดอกไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น ดอกลำไย ดอกลิ้นจี่ ดอกสาบเสือ ดอกนุ่น ดอกงา ดอกเงาะ และดอกยางพารา น้ำผึ้งมีความหนืดเหนียว เมื่อเก็บไว้นานสีจะเข้มขึ้นตามชนิดของเกสรดอกไม้ที่ได้มา คนไทยนิยมบริโภคโดยตรงหรือนำไปผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำผลไม้ และมีการนำไปใช้ในตำรับยาแผนไทย ทำให้การเลี้ยงผึ้งมีโอกาสทางการตลาดสูง เนื่องจากมีคุณประโยชน์ที่สูงและความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจการเลี้ยงผึ้งในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการบริโภคสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเลี้ยงผึ้งไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงผึ้ง แต่ยังมีผลกระทบที่ดีต่อการเกษตร ในการช่วยผสมเกสรของพืช แต่การเลี้ยงผึ้งในประเทศไทยยังมักพบปัญหาหลายประการ เช่น การบริหารจัดการฟาร์มผึ้ง คุณภาพน้ำผึ้งตามมาตรฐานสากล การสื่อสารเรื่องคุณค่าทางโภชนาการของน้ำผึ้ง การตลาดที่ยังไม่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการขาดการสนับสนุนที่เพียงพอจากภาครัฐ (ประชาชาติออนไลน์, 2565) การเลี้ยงผึ้งในภาคเหนือสามารถให้ผลผลิตสูง เป็นพื้นที่นี้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเลี้ยงผึ้ง โดยอุณหภูมิและมีความชื้นพอเหมาะ รวมถึงมีพืชพรรณที่หลากหลายเป็นแหล่งอาหารสำคัญของผึ้ง เช่น ดอกลำไย ดอกลิ้นจี่ ดอกสาบเสือ ทำให้น้ำผึ้งจากภาคเหนือมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และในจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดแพร่ มีการเกษตรกรรวมกันประกอบอาชีพการเลี้ยงผึ้งอยู่เป็นจำนวนมาก มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมาณ 18 กลุ่ม (กองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน, 2566) สามารถสร้างรายได้และทำให้เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งได้ กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งในพื้นที่มีจุดแข็งคือมีความสามารถในการจัดการการเลี้ยงผึ้งให้มีคุณภาพและปริมาณสูง มีประสบการณ์ในการเลี้ยงและผลิตน้ำผึ้งมานาน และมีจิตวิญญาณที่รักและหวงแหนทรัพยากรท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ปัญหาหลักของกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งในจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดแพร่ คือการขาดความสามารถในการประกอบธุรกิจ และการแข่งขันในธุรกิจน้ำผึ้งได้ ยังมีระบบการบริหารจัดการธุรกิจชุมชนยังไม่เหมาะ ขาดโมเดลธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ขาดการวางแผนการดำเนินงาน และมองภาพธุรกิจในอนาคตยังไม่ชัดเจน เกิดจากการขาดความรู้การทำธุรกิจ ไม่รู้ว่าสินค้าของตนเองมีคุณค่าอย่างไร มีปัญหาทางการจัดการการเงิน ไม่มีตลาด การวางแผนการค้าและการลงทุน รวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งแตกต่างจากการทำธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วไป (บัณฑิต อินณวงศ์, 2565; SME Thailand Club, 2565) การสร้างและพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนและเป็นระบบจะช่วยให้กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งสามารถจัดการการผลิต การตลาด และการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การพัฒนาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการประกอบธุรกิจของกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้ง โมเดลธุรกิจที่พัฒนาขึ้นจะต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ ในการพัฒนาธุรกิจชุมชนผู้เลี้ยงผึ้งให้มีความเข้มแข็ง โดยใช้โมเดลการพัฒนาคน-ของ-ตลาด (People-Product-Market) ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการคิดและวิเคราะห์ของผู้ประกอบธุรกิจชุมชนหรือคน ให้รู้จักและเข้าใจตัวตนของธุรกิจตนเองก่อน ให้เรียนรู้กระบวนการปรับวิธีคิดและกรอบความคิด (Mindset) เกิดการสร้างกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth Mindset) ซึ่งในการดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้ได้ประยุกต์ใช้โมเดล คน-ของ-ตลาด เพื่อให้เกิดการพัฒนาความสามารถในการประกอบธุรกิจของกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งในภาคเหนือ การประยุกต์ใช้โมเดลนี้จะช่วยให้กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งสามารถพัฒนาความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนของธุรกิจได้ โดยการสร้างให้ผู้เลี้ยงผึ้งเกิดการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้ใหม่ในการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อมาประยุกต์ใช้กับกิจการของกลุ่มตนเองให้มีประสิทธิภาพ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบทและสถานการณ์การดำเนินธุรกิจของการเลี้ยงผึ้งในจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมุ่งเน้นไปที่การผลิต การตลาด และการประเมินขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของผู้เลี้ยงผึ้ง ทำการสร้างและพัฒนาโมเดลทางธุรกิจของกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้ง เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และสามารถทดสอบและปรับปรุงโมเดลทางธุรกิจให้มีความเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม การวิจัยนี้มีความสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพและความยั่งยืนของกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งในจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดแพร่ และสามารถนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีลักษณะการกิจการที่คล้ายคลึงกันได้
โมเดลธุรกิจ,ผู้ประกอบการ ,ผู้เลี้ยงผึ้ง,ความสามารถทางธุรกิจ ,ธุรกิจชุมชน