ชื่อ กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ หมู่ที่ 5

ปราชญ์ชุมชน นายทวีศักดิ์ หมื่นโฮ้ง เป็นประธาน

ข้อมูลติดต่อ ที่ทำการกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ หมู่ที่ 5 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ หมู่ที่ 5 เกิดจากการสนับสนุนมาจากสมาคมเพิ่มศักยภาพภาคเหนือ หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน จำนวน 20,000.- บาท มีการคัดเลือกคณะกรรมการจากการประชาคมหมู่บ้าน จำนวน 9 คน มีสมาชิกแรกเริ่ม จำนวน 75 คน สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมโดยการช่วยกันระดมหุ้นเพื่อให้เกิดแหล่งเงินทุนในหมู่บ้านเพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพ มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เช่น มีค่ารักษาพยาบาล ครั้งละ 200.- บาท การเสียชีวิต จัดสรรเงินปันผลให้กับสมาชิก 25% จัดสรรให้คณะกรรมการ 25% สมทบกองทุน 40% และบำเพ็ญสาธารณประโยนช์ 10%

ชื่อ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะเลียม

ปราชญ์ชุมชน นางสาวจารุภัทร ใจกระเสน

ข้อมูลติดต่อ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะเลียม หมู่ที่ 5 ตำบลำตหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
สถานีอนามัยสะเลียม เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยมี กำนันมนัส ภูมรินทร์ เป็นผู้ประสานงานงบประมาณมาก่อสร้างบนพื้นที่ นายเพชร ทะนันไชย จำนวน 2 ไร่และเปิดดำเนินการเมื่อ พ.ศ. 2539 มีนางละไม รัตนมูลปัญญา เป็นผู้อำนวยการสถานีอนามัยในสมัยนั้น พ.ศ. 2554 ได้ยกระดับฐานะให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะเลียม ณ ปัจจุบันมีความรับผิดชอบให้บริการและดูแลประชาชนในหมู่บ้านหมู่ที่ 1 3 5 และ 7 รวมทั้งสิ้น4 หมู่บ้านภายใต้ฐานคิด "การมีส่วนร่วมทำงานทุกภาคส่วนและนำใช้ข้อมูลในการปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ"

ชื่อ อสม. อผส.

ปราชญ์ชุมชน นายมี อู่เงิน ประธาน อสม.ตำบลตำหนักธรรม

ข้อมูลติดต่อ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพสะเลียม หมู่ที่ 5 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
ในพื้นที่ตำบลตำหนักธรรมมีหน่วยให้บริการด้านสาธารณสุขแบ่งออกเป็น 2 แห่งได้แก่ 1) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพสะเลียม ซึ่งมีเขตรับผิดชอบที่ดูแล 4 หมู่บ้านคือหมู่ที่ 1 3 5 และหมู่ที่ 7 ตำบลตำหนักธรรม 2) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำหนักธรรมมีเขตรับผิดชอบที่ดูแล 4 หมู่บ้านคือหมู่ที่ 2 4 6 และหมู่ที่ 8 ตำบลตำหนักธรรม และในการแบ่งเขตพื้นที่การบริการด้านสาธารณสุขตามที่กล่าวมาจึงแยกกลุ่มอสมเป็น 2 กลุ่มตามหน่วยบริการสาธารณสุขคือรพ.สต.สะเลียม และอสมรพ. สต.ตำหนักธรรม ปี พ.ศ. 2520 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงตลอดจนมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน และพัฒนาสาธารณสุข จึงได้นำเอาการสาธารณสุขมูลฐานมาเป็นกลวิธีหลักในการพัฒนาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 4 (2520-2524) เป็นต้นมาโดยสนับสนุนให้มีการดำเนินงานสาธารณสุขมูลฐานครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและส่งเสริมให้ชุมชนตระหนักในความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของชุมชนเองซึ่งมีตัวจักรสำคัญในการดำเนินงาน เกิดเป็นผมผู้สื่อข่าวสาธารณสุข (ผสส.) (ผู้สื่อสารข่าวสารสาธารณสุข) โดยมีหน้าที่กระจายข่าวสารทางด้านสาธารณสุขของตำบลมีหน้าที่ แก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ประชาชน ดำรงตนเป็นตัวอย่างที่ดี ในปี พ.ศ. 2526 มีการเปลี่ยนชื่อจาก ผสส.ตำบลตำหนักธรรมเป็น อสม.รพ. สต.ตำหนักธรรม โดยมีการได้รับบทบาทหน้าที่ด้านสาธารณสุขมากขึ้น คือมีหน้าที่ดูแลคนในชุมชนด้านสาธารณสุขอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2528 มีการทำงานเป็นรูปประธรรมมากขึ้นโดยการได้รับความสนับสนุนจาก รพ. สต.ตำหนักธรรม ให้มีการทำงานเป็นระบบ มีการแบ่งหมู่ผู้ดูแลคนในชุมชนตามสัดส่วนจำนวนครัวเรือน มีการเก็บข้อมูลด้านสาธารณสุขของ คนเจ็บ ป่วย ตาย จากโรคต่างๆ รวมถึงสถิติการเกิดของเด็ก มีการติดตามการให้วัคซีนในเด็กให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคตามตารางที่กำหนดในคู่มือประจำตัวเด็ก อสมรพ.สต.ตำหนักธรรม มีความเชี่ยวชาญในการทำงานด้านสาธารณสุขมากขึ้น และทำงานเป็นระบบมากขึ้นมีการจดบันทึกจัดเก็บข้อมูลการทำงานของ อสม. ทุกคน ซึ่งมีผลกระทบดีต่อคนในชุมชน มีการจัดทำสมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อจัดเก็บข้อมูลสุขภาพผู้สูงอายุ และมีการตรวจติดตามเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุโดยมีเครื่องมือในการจัดเก็บบันทึกเยี่ยมบ้านคือ แบบฟอร์มสำหรับคัดกรองผู้สูงอายุ (Basic Geriatric Screening : BGS) ที่รพ.สต. ให้ อสม. กรอกและส่งคืนให้ รพ.สต.ตำหนักธรรม นำกลับมาประมวลผล และนำผลที่ได้มาเข้ากระบวนการจัดทำแผนในการแก้ปัญหาด้านสุขภาพต่อไป และเมื่อผู้สูงอายุเจ็บป่วยก็มีผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นและให้คำแนะนำแก่ลโรคนั้นๆ ในปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลมีนโยบายให้ค่าตอบแทนแก่ อสม. ทั่วประเทศเดือนละ 600 บาท เพื่อตอบแทนความเสียสละแก่อาสาสมัครในชุมชนให้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อชุมชน ทำให้ อสม.รพ.สต.ตำหนักธรรม นั้นการรับค่าตอบแทนดังกล่าวด้วย อสม.ในตำบลมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ในปี พ.ศ. 2557 สูงอายุในตำบลมีมากขึ้น ทำให้มีการขอส่งให้ อสม. บ้านละ 2 คนร่วมเป็นสมาชิก อผส. เพื่ออบรมการดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ทำให้ อสม. มีงานอีกด้านหนึ่งคือการดูแลผู้สูงอายุด้วย อสม. มีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกด้านคือการดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ทำให้เป็นการเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาตนเองในการดูแลชุมชน ในปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน อสมรพ. สต.ตำหนักธรรม มีสมาชิกทั้งสิ้น 92 คน แบ่งกันดูแลตามหมู่บ้านโดย อสม. 1 คน รับผิดชอบดูแลตั้งแต่ 7-11 ครัวเรือน ทั้งนี้ การแบ่งผู้ดูแลขึ้นอยู่ที่กลุ่มบ้านเรือนที่อยู่อาศัยที่ห่างไกลด้วยเพื่อความง่ายต่อการบริการ เป็นการพัฒนาศักยภาพของกลุ่ม อสม. และการจัดการตนเองในชุมชนโดยคนในชุมชนดูแลกันเอง