ข้อมูลรองรับสังคมสูงวัย (บ้านตำหนักธรรม ม.2)

หมู่บ้าน บ้านตำหนักธรรม ม.2 หมู่ที่ 2 ซอย -
ถนน- ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

 

 

1. ข้อมูลสถานภาพผู้สูงอายุ

1.1 ประชากรในชุมชน

1.2 สถานการณ์ผู้สูงอายุ

1.3 ข้อมูลสถานภาพชุมชน

2. แหล่งเรียนรู้ในชุมชน

ชื่อ ศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านตำหนักธรรม

ปราชญ์ชุมชน พระครูปราโมทย์ ธรรมโมภาส เจ้าอาวาสวัดตำหนักธรรม

ข้อมูลติดต่อ วัดตำหนักธรรม หมู่ ๒ ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
ศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านตำหนักธรรมเป็นแนวคิดของกลุ่มอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านตำหนักธรรม ที่ต้องการจัดกลุ่ม เริ่มจัดตั้งขึ้น เกิดจากการริเริ่มของท่านพระครูปราโมทย์ ธรรมโมภาส เจ้าอาวาสวัดตำหนักธรรม ได้เริ่มเก็บของเก่าโบราณที่เป็นวิถีชีวิตของคนล้านนาไว้ และมีชาวบ้านหลายคนที่มีแนวคิดเช่นเดียวกับท่านเจ้าอาวาส จึงได้นำของเก่าโบราณที่มีอยู่ในบ้านเรือนของตัวเองมารวมไว้ที่วัด และทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่เห็นเป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรอนุรักษ์ไว้ จึงได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ ทางบ้านตำหนักธรรมจึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของตำหนักธรรมซึ่งในศูนย์ได้จัดทำข้อมูลต่างๆไว้สำหรับให้ผู้ชมได้ศึกษา เช่น ประวัติบ้าน,ประวัติวัดตำหนักธรรม,ตู้คำภีร์หนังสือล้านนา (หนังสือเมือง) ,ตำหนักที่ประทับจำลอง,วิถีชีวิตการแต่งกายแบบล้านนา,แบบสมัยก่อน (โบราณ)และในสมัยปัจจุบัน,ตู้แสดงเงินตราในอดีต,เงินตราของต่างประเทศ,ตู้เพลงลูกกรุง ลูกทุ่งในอดีต,การแสดงถึงวิถีชีวิตการทอผูก,ประวัติผ้าเครื่อง (เครื่องยกครู) ,รูปภาพประวัติบ้านตำหนักธรรม,เซียนหมากพลู,ครกมองตำข้าว,ลานเล่นสะบ้า,เครื่องดนตรีล้านนา เช่น สะล้อ ซอ ซึง,กลองอืด,การฟ้อนแอ่น ฯลฯ และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ฝึกสอนการฟ้อนแอ่นการละเล่นโบราณ การฟ้อนรำต่าง ๆ ให้กับสภาเด็กและเยาวชนตำบลตำหนักธรรม กลุ่มสตรีแม่บ้าน กลุ่มหนุ่มสาวอีกด้วย

ชื่อ กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ศพผู้สูงอายุ หมู่ ๒

ปราชญ์ชุมชน นายประสิทธิ์ นันต๊ะมาสค์ เป็นประธาน

ข้อมูลติดต่อ บ้านตำหนักธรรม หมู่ ๒ ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้ศพสูงอายุเป็นการรวมกลุ่มของผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันผู้สูงอายุเสียชีวิตเป็นการรวมตัวกันของผู้สูงอายุที่จะสานต่อจารีตและประเพณีการจัดเตรียมสิ่งของให้กับผู้สูงอายุที่เสียชีวิต กองทุนฌาปนกิจ หมู่ที่ 2 เกิดขึ้นภายใต้ชมรมผู้สูงอายุบ้านตำหนักคำเป็นการเชื่อมร้อยหัวใจของคน ๔ หมู่บ้านเข้าด้วยกัน คือำมู่ที่ ๒ หมู่ที่ ๔ หมู่ที่ ๖ และหมู่ที่ ๘ ให้เกิดความรัก ความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีการยึดมั่นใน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความสามารถถ่ายทอดจารีตประเพณีความเป็นตนเองของคนตำหนักธรรมไว้เป็นเอกลักษณ์ให้กับลูกหลานสืบต่อ ภายใต้ฐานคิดของการดำเนินกิจกรรม ฐานคิดที่ ๒ ให้มีเงินช่วยเหลือทำศพผู้สูงอายุทุกคน ฐานคิดที่ ๒ การสร้างการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุและการทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน

ชื่อ กลุ่มพรมเช็ดเท้า

ปราชญ์ชุมชน นางปราณี สายหล้า

ข้อมูลติดต่อ บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 2 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
องค์การบริหารส่วนตำบลตำหนักธรรม ได้ทำการประชาคมถึงความต้องการในการสร้างรายได้เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือสร้างอาชีพ ให้กับประชาชนในบ้านหมู่ที่ 2 พบว่าประชาชนมีความต้องการฝึกอาชีพทำพรมเช็ดเท้า และมีการรวมตัวกันของกลุ่มสตรีที่มีความสนใจฝึกอาชีพ 30 คนประสานงานกับ กศน.อำเภอหนองม่วงไข่ ให้ฝึกอาชีพจำนวน 5 วัน เมื่อเสร็จสิ้นจากการฝึกแล้วบางคนมีรายได้เสริมเกิดขึ้น ผลิตภัณฑ์ขายได้ราคาดีและมีผู้บรืโภคจำนวนมากสั่งซื้อผลิตไม่ทัน จังได้รวมกลุ่มกันเพื่อผลิต และสร้างเครือข่ายเปิดสอนให้กับผู้สูงอายุเป็นสมาชิก และมีฐานคิดในการทำงานแบบมีส่วนร่วมกันในชุมชนสร้างการเป็นเครือข่าย การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชุมชนต่อไป

ชื่อ วัดตำหนักธรรม

ปราชญ์ชุมชน พระครูปราโมทย์ ธรรมโมภาส เจ้าอาวาสวัดตำหนักธรรม

ข้อมูลติดต่อ วัดตำหนักธรรม หมู่ที่ 2 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
บ้านแม่คำมีตำหนักธรรมหรือตำบลตำหนักธรรมปัจจุบันเดิมชื่อบ้านแม่ค้ามีแพะ (หรือแม่คำมีแปะ) เรียกแบบพื้นบ้านในครั้งอดีตบ้านแม่คำมีตำหนักธรรมหรือตำบลตำหนักธรรม ปัจจุบันชื่อบ้านไร่หรือบ้านไร่เพราะราษฎรที่มาตั้งถิ่นฐานครั้งแรกนั้นอพยพมาจากบ้านเหมืองค่าบ้านสบู อำเภอเมืองแพร่ และบ้านตอนิมิตอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ราษฎรเหล่านั้นได้มาบุกเบิกหักร้างถางพงทำไร่ทำสวนปลูกข้าวฝ้ายอ้อยตลอดจนพืชหมุนเวียนอื่น ๆ บริเวณที่ติดกับลำห้วยแม่น้ำคำมีซึ่งเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์มีน้ำไหลผ่านตลอดปี ดังนั้นผู้คนที่อพยพมาอยู่จึงตั้งหมู่บ้านเล็ก ๆ ของตนขึ้นแล้วเรียกชื่อบ้านตนเองว่าบ้านไร่หรือบ้านไร่ ทั้งนี้สันนิฐานว่าคงจะเริ่มต้นเป็นหมู่บ้านประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ต่อมามีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อนายเต๋ ได้โยกย้ายครอบครัวมาจากบ้านต้องพ้องมาตั้งครอบครัวทำไร่ทำสวนและได้นำแพะมาเลี้ยงใกล้ ๆ กับลำห้วยซึ่งมีน้ำไหลผ่านชาวบ้านเรียกว่าร้องหมายถึงร่องน้ำหรือลำน้ำเล็ก ๆ ในเขตบริเวรบ้านไร่ติดกับบ้านน้องพ้องหลักจากนั้นก็มีราษฎรอพยพมาจากที่อื่น ๆ มาอาศัยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ ๒๐ กว่าหลังคาเรือนแล้วพร้อมใจกันตั้งชื่อหมู่บ้านของตนใหม่ว่าบ้านแม่คำมีแพะ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีการเลี้ยงแพะกันมากขึ้นนั่นเองนอกจากนี้ยังเรียกน้ำหรือลำห้วยที่นายเก๋และชาวบ้านมาอาศัยอยู่ว่าร้องเต้หรือร่องเต้เพื่อเป็นการบอกถึงกลุ่มชนที่มาอาศัยตั้งถิ่นฐานอยู่ก่อนนั้นเองเมื่อตั้งหมู่บ้านขึ้นมาแล้วก็ได้มีการตั้งวัดประจำหมู่บ้านขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจและทำบุญสุนทานและฟังเทศน์เพื่อนำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปขัดเกลาจิตใจของชาวบ้านก็ได้ตั้งวัดประจำหมู่บ้านขึ้นเป็นครั้งแรกที่ป้อมตำรวจ ณ ปัจจุบันก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำคำมีตำหนักธรรมกับแม่น้ำคำมีศรีภูมิในปัจจุบันต่อมามีการสำรวจเส้นทางเพื่อตัดถนนหน้าป้อมตำรวจปรากฏว่าถนนจะต้องผ่านวัดดังนั้นจึงต้องย้ายวัดเป็นครั้งที่ ๒ มาตั้งอยู่บริเวณที่ตั้งปัจจุบันคงจะย้ายมาตั้งเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๕ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๙ ได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านจากบ้านแม่คำมีแพะเป็นบ้านแม่คำมีตำหนักธรรมสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อสืบเนื่องมาจากสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิตบริพัตรพระราชโอรชในพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักกรีได้เสด็จพระพาสนครน่านจังหวัดน่าน) โดยทรงช้างและม้าพอเสด็จถึงลำห้วยแม่น้ำแม่คำมีเขตติดต่อระหว่างบ้านแม่คำมีตำหนักธรรมอำเภอหนองม่วงไข่กับบ้านศรีภูมิอำเภอเมืองแพร่ตรงข้ามหัวมุมสะพานข้ามแม่น้ำแม่คำมีซ้ายมือมาจากอำเภอเมืองแพร่พระองค์ได้หยุดเสด็จประทับในพลับพลาซึ่งข้าราชบริพารผู้ตามเสด็จและราษฎรสร้างขึ้นเพื่อถวายเพื่อเป็นที่พำนักเป็นเวลาหลายวันก่อนที่จะเสด็จต่อไปนครน่านชาวบ้านเรียกพลับพลาที่ประทับของพระองค์ว่าตำหนักส่วนเรือนพักผู้ตามเสด็จ และพวกลูกหาบเรียกว่า โฮงกุลีปัจจุบันที่ตั้งตำหนักและโฮงกุลีเป็นที่ราชพัสดุสมเด็จกรมหลวงนครสวรรค์วรพินิตบริพัตรเสด็จประทับ ณ ตำหนักเป็นเวลานานพอสมควรแล้วเสด็จไปยังนครน่านโดยมีเจ้านครน่านคือมหาอุปราชมหาพรหมสุระธาดานำขบวนช้างมารับเสด็จต่อไปยังนครน่านหรือจังหวัดน่านในปัจจุบันวัดตำหนักธรรมตั้งอยู่หมู่ที่ 6 บ้านไร่ต. ตำหนักธรรมอ. หนองม่วงไข่จ. แพร่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ มีพื้นที่ประมาณ ๔ ไร่ ปัจจุบันมีพระครูปราโมทธรรโมภาสอายุ ๖๔ พรรษาเป็นเจ้าอาวาสของวัดตำหนักธรรมสำหรับวัดตำหนักธรรมนั้นจะเป็นแหล่งรวมจิตใจของผู้สูงอายุและชาวบ้านในหมู่ที่ ๒,๔,๖,๕ ในการมาทำบุญและทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับด้านพุทธศาสนาและกิจกรรมต่างๆเช่นการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่การออกกำลังกายไม้พองของชมรมผู้สูงอายุการทำดอกไม้จันเป็นต้นวัดตำหนักธรรมยังมีแหล่งการเรียนอื่นอีกที่ตั้งอยู่ภายในวัด ได้แก่ ชมรมผู้สูงอายุตำบลตำหนักธรรมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลตำหนักธรรมห้องสมุดรังสรรค์และศูนย์การเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน

3. นวัตกรรมและชุดความรู้

ชื่อ กลุ่มไม้เท้าแม่บุญมี

เจ้าของผลงาน นางศรีแพร ทุ่งสงค์ ประธานกลุ่ม

ข้อมูลติดต่อ วัดตำหนักธรรม หมู่ที่ 2 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (ประเด็นยุทธศาสตร์กรมอนามัย ปี ๕๑ - ๕๔) จึงเป็นช่วง ที่กระแสการออกกําลังกายกลับมาอีกครั้งตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนสนใจในการดูแลสุขภาพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลตําหนักธรรม จึงได้เลือกจัดกิจกรรมออกกําลังกายที่เหมาะสมในแตะ กลุ่มวัย และได้เลือกกิจกรรมรําไม้พลอง การบริหารร่างกายโดยการใช้ไม้พลองจึงเหมาะสมที่จะเป็นการ ออกกําลังกายในผู้สูงอายุ เพราะเป็นการยืดกล้ามเนื้อลําตัว หลังและต้นขาเป็นส่วนใหญ่ช่วยป้องกันและลด อาการปวดหลัง ต้นแบบรําไม้พลองที่นํามาฝึกคือ ท่ารําไม้พลองของป้าบุญมี แรกเริ่มนั้น มีการรวมกลุ่ม กันเล็กๆ ของผู้สูงอายุที่สนใจการออกกําลังกายในแบบนี้ ได้รวมตัวกันทุกเช้า ณ ลานวัดตําหนักธรรม ผู้นํากิจกรรมการสอนคือ นางสายใจ ก้อนแก้ว เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลตําหนักธรรม โดยสมาชิกแต่ละคนให้นําอุปกรณ์ติดตัวมาด้วย ในขณะนั้นอุปกรณ์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่าย เช่น ไม้ไผ่ เมื่อกิจกรรมได้ดําเนินไปอย่างต่อเนื่อง ผู้สูงอายุก็สามารถดําเนินกิจกรรมกันเองได้ ผู้ที่ถูกคัดเลือกขึ้นมา เพื่อเป็นผู้นํา และผู้สอนในช่วงเวลานั้น คือ นางวิลัย ชัยสาร เนื่องจากท่านสามารถทําท่าได้ถูกจังหวะ และ จดจําท่าต่างๆ ได้อย่างแม่นยํา เมื่อสมาชิกกลุ่มที่มาร่วมออกกําลังกายเห็นถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับสุขภาพ ของตัวเอง จึงได้ชักชวนกันปากต่อปากเพื่อให้มาร่วมกิจกรรมออกกําลังกายรําไม้เท้าแม่บุญมีนี้ ต่อมาในปัจจุบัน องค์การบริหารส่วนตําบลตําหนักธรรม ได้เห็นถึงประโยชน์และความสําคัญของ การส่งเสริมสุขภาพด้วยการบริหารร่างกายโดยใช้ไม้พลอง จึงได้สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมในโรงเรียน ผู้สูงอายุ และยังสนับสนุนอุปกรณ์เพื่อสามารถใช้ในกิจกรรมโรงเรียนผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังได้มีการ ส่งเสริมให้มีการส่งต่อความรู้ความสามารถของนางวิลัย ชัยสาร ให้กับตัวแทนผู้สูงอายุแต่ละหมู่บ้าน เนื่อให้สามารถนําไปถ่ายทอดและเป็นผู้นําในกิจกรรมรําไม้เท้าแม่บุญมีให้สมาชิกในแต่ละหมู่สามารถนําไป ปฏิบัติกันเองได้อย่างต่อเนื่อง

ไฟล์แนบ

4. ประเด็นปัญหาเร่งด่วน

5. หน่วยงานภาคีเครือข่าย