ชื่อ สถาบันการจัดการการเงิน หมู่ที่ 1

ปราชญ์ชุมชน นายยงยุทธ เมฆอากาศ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1

ข้อมูลติดต่อ อาคารเอนกประสงค์ บ้านสะเลียมเหนือ หมู่ที่ 1 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
สถาบันการเงิน หมู่ที่ 1 เกิดขึ้นจากปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูง ทำให้เกิดเป็นหนี้นอกระบบ เข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพได้ยาก และไม่มีการออมอย่างเป็นระบบ จึงคิดช่วยกันแก้ไขปัญหาด้วยการช่วยเหลือกันเองภายในหมู่บ้าน โดยได้ทำการประชาคมหมู่บ้านจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีการจัดทำระเบียบข้อบังคับกลุ่มไว้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ โดยมี นางธัญญาณี ศรีใจอินทร์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองม่วงไข่ ให้ความรู้ในการจัดตั้งและเป็นผู้ช่วยเหลือในการจัดตั้งและคัดเลือกคณะกรรมการบริหารงาน ทำให้ได้คณะกรรมการจากการคัดเลือก จำนวน 5 คน จึงได้จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต พร้อมทั้งรับสมัครสมาชิก มีสมาชิกแรกเริ่มจำนวน 52 คน มีการระดมเงินทุนมาร่วมหุ้น ๆ ละ 10 บาท และมีการส่งเสริมให้มีการออมทุกเดือนของสมาชิก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุน จาก สมาคมเพิ่มศักยภาพภาคเหนือ หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นจำนวนเงิน 15,703 บาท มีการบริหารจัดการให้สมาชิกกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพ โดยคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 บาทต่อเดือน หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการใหม่ เป็น 15 คน คณะกรรมการมีแนวคิดรวมกลุ่มกองทุนต่างๆ ในชุมชนที่ยังไม่เข้มแข็งและมีการบริหารงานในลักษณะเดียวกัน เช่น โครงการอยู่ดีมีสุข กองทุน SML กองทุนชุมชนพอเพียง กองทุนกลุ่มทำปลาร้า กองทุน อพฟร. และกองทุนเงินล้านข้ามาอยู่ในระบบ และเปลี่ยนชื่อเป็นสถาบันการ จัดการการเงิน ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด จำนวน ๑๕๓ คนและได้มีเงินหมุนเวียนอยู่ในสถาบันการเงินชุมชนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,874,500 บาท

ชื่อ กลุ่มปลาร้า

ปราชญ์ชุมชน นางอุดร ยอดสาร

ข้อมูลติดต่อ บ้านเลขที่ 35/2 หมู่ที่ 1 ตำบลตำหนักธรรม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่

รายละเอียด
บ้านสะเลียมเหนือ หมู่ที่ 1 มีจำนวนครัวเรือน 96 ครัวเรือน จำนวนประชากรทั้งสิ้น 310 คน แยกเป็นชาย 169 คน หญิง 142 คน ประสบปัญหารายได้น้อยตกเกณฑ์ จปฐ ในปี พ.ศ. 2558 ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองม่วงไข่และองค์การบริหารส่วนตำบลตำหนักธรรม จึงได้ออกมาทำประชาคมเพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือสร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มให้กับครัวเรือนของกลุ่มสตรีจึงเกิดการรวมกลุ่มของสตรีแม่บ้านทำปลาร้า และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้สูงอายุ และรับสมัครผู้สูงอายุเข้าเป็นสมาชิก รายได้จากการดำเนินกิจกรรมจะถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน ดังนี้ ร้อยละ 70 เข้ากลุ่ม ร้อยละ 30 เป็นการแบ่งผลกำไรให้กับสมาชิก